น.ส ทิพย์สุดา นาจะหมื่น

test

Breaking

Post Top Ad

Your Ad Spot

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ต้นเล็บครุฑ

https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%91&espv=2&biw=1536&bih=760&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwikopzJ4LvRAhWLrY8KHTRUB34Q_AUIBigB#imgrc=q9-utxEaZ2dyFM%3A

ต้น เล็บครุฑ


  • ชื่อสามัญ เล็บครุฑ (Ming aralia)
  • ชื่อวิทยาศาสตร์ : Polyscias fruticosa (L.) Harms
  • ชื่อพื้นเมือง เล็บครุฑฝอย เล็บครุฑผักชี
  • ลักษณะทั่วไป 
  • ลำต้น
    เล็บครุฑ เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 1-2 เมตร ต้นอ่อนมีสีเขียว ลำต้นแก่มีสีเทา ผิวลำต้นสากมือ ลำต้นแตกกิ่งตั้งตรงรวมกันเป็นทรงพุ่ม และมีปุ่มนูนบริเวณกาบใบที่ร่วงไป 
  • ใบ
    ใบเล็บครุฑ แตกออกจากลำต้น และกิ่ง โดยเรียงสลับกันเป็นชั้นๆ ใบเป็นใบประกอบมีก้านใบหลักยาว โคนก้านใบหลักมีตุ่มหนามเล็กๆสีขาว และถัดขึ้นมาเป็นจุดประสีขาวสลับกับสีเขียวเข้ม จากนั้น ก้านใบหลักแตกก้านใบย่อยออก ก้านใบย่อยมีใบเรียงกันเป็นคู่ตรงข้ามกัน 5-9 ใบ โดยใบสุดท้ายเป็นใบเดี่ยว ใบย่อยแต่ละใบมีลักษณะเรียวยาว ขอบใบหยักลึกหลายหยัก คล้ายกรงเล็บ ส่วนปลายใบแหลม
  • ดอก
    ดอกเล็บครุฑ แทงออกปลายยอดของลำต้น ช่อดอกมีขนาดใหญ่ และแตกแขนงช่อย่อยจำนวนมาก แต่ละช่อมีดอกรวมกันเป็นกระจุก 20-40 ดอก
  • ผล และเมล็ด
    ผลเล็บครุฑ มีลักษณะค่อนข้างกลม รวมกับหลายผลเป็นกระจุก

    • การขยายพันธุ์ :
    • การปลูกด้วยเมล็ด
      – นำเมล็ดแช่น้ำที่ผสมน้ำตาลประมาณ 10% เช่น น้ำ 1 ลิตร ใช้น้ำตาล 100 กรัม โดยแช่เมล็ดนาน 6 ชั่วโมง
      – นำเมล็ดลงเพาะในถุงเพาะชำ ถุงละ 1-2 เมล็ด
      – จากนั้น นำถุงเพาะชำวางใว้ในที่แสงแดดรำไร รดน้ำวันละ 1 ครั้ง ทุกวัน ประมาณ 7-15 วัน เมล็ดก็เริ่มงอก
      – หลังจากนั้น ต้นพันธุ์แตกใบแล้ว 3-5 ใบ จึนำปลูกลงดินได้ หรือหากปลูกในกระถางอาจปล่อยให้เติบโตสักระยะ ก่อนเปลี่ยนใส่กระถางที่มีขนาดใหญ่กว่า
    • การเสียบยอด
      – เพาะต้นพันธุ์ในกระถาง และดูแลให้มีขนาดลำต้นประมาณนิ้วก้อย
      – เลือกกิ่งจากต้นพันธุ์ดี พร้อมตัดปลายกิ่งส่วนที่มีขนาดใกล้เคียงกับต้นตอ อาจเล็กกว่าเล็กน้อยก็ได้ แต่ห้ามให้ใหญ่กว่า พร้อมเด็ดใบออกให้หมด
      – ปาดโคนกิ่งเป็นรูปสามเหลี่ยม หรือ ตัว V ซ้าย-ขวา ให้เรียบ และสม่ำเสมอ
      – ตัดต้นตอในแนวขวางลำต้น ให้เหลือโคนต้นสูงประมาณ 5 เซนติเมตร
      – ผ่าต้นตอให้เป็นรูปตัว V ในขนาดที่พอเหมาะกับตัว V คล่ำของกิ่งที่ใช้เสียบ
      – นำกิ่งที่ปาดเป็นรูปตัว V เสียบลงตรงรอยผ่าของต้นตอให้รอยปาด และรอยกรีดจรดเสมอกัน ก่อนพันด้วยแผ่นพลาสติกให้แน่น
      – หลังจากนั้น ดูแลให้น้ำปกติ จนส่วนยอดแทงใบใหม่แล้ว จึงนำลงปลูกต่อไป

    • ประโยชน์ :
    • ใบ (มีกลิ่นหอม ให้รสเผ็ดร้อน)
      – ใบนำมาต้มดื่มแก้อาการปวดหัว แก้ไมเกรน แก้ปวดหัวข้างเดียว
      – น้ำต้มจากใบมีกลิ่นหอม ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
      – น้ำต้มจากใบใช้ดื่ม แก้อาการปวดตามข้อต่างๆ
      – นำใบมาตำบด สำหรับพอกรักษาแผล แก้แผลอักเสบ
      – นำมาพอกทารักษาผื่นคัน
      – นำมาพอกทารักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน
      – ใบนำมาขยำแล้วอุดรูจมูก สำหรับแก้เลือดกำเดาออก
    • ลำต้น (รสฝาด)
      – นำมาต้มดื่มช่วยดับพิษร้อน
      – น้ำต้มช่วยรักษาท้องร่วง
      – น้ำต้มดื่ม แก้อาการปวดหัว ช่วยลดไข้
      – แก่นลำต้นนำมาฝนใช้ทาสมานแผล
    • ราก (รสร้อน)
      – ช่วยขับปัสสาวะ
      – ช่วยให้ผ่อนคลาย
      – แก้ปวดตามข้อ
    • ความเชื่อ เป็นไม้มงคลที่เชื่อว่าจะคอยคุ้มครองภยันตรายไม่ให้กล้ำกลาย ทั้งภูตผี วิญญาณชั่วร้าย เวทมนต์ดำ และสิ่งอัปมงคลต่างๆ
    • เกร็ดความรู้อื่นๆ จัดเป็นไม้ประดับต้นที่นิยมปลูกทั้งในกระถาง และแปลงจัดสวน เนื่องจากมีลำต้น และทรงพุ่มไม่สูง ใบมีลักษณะแปลก มีลวดลายสวยงาม
    • สถานที่พบ  หลังอาคารสาม
    • อ้างอิง  https://sites.google.com/site/wachiratham59602/home/21

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Your Ad Spot